พิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน เกาะสีชัง
Phra Chudhadhuj Ratchasthan Palace Museum
พระจุฑาธุชราชฐาน เป็นพระราชวังบนเกาะแห่งเดียวในประเทศไทย สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยเริ่มสร้างอาคารที่พักต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2432 และใช้เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ จนกระทั่งเกิดกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศส รศ. 112 ซึ่งมีกองทหารบุกขึ้นเกาะสีชังและปิดอ่าวไทย การก่อสร้างพระที่นั่งและตำหนักต่างๆ จึงยุติลงในปี พ.ศ. 2435 โปรดให้รื้อถอนสิ่งก่อสร้างต่างๆ ไปสร้างในที่อื่น แต่นั้นมาเป็นอันเลิกพระราชวังที่เกาะสีชัง
ในปี พ.ศ. 2521 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับมอบสิทธิการใช้ที่ดินจากกรมธนารักษ์ โดยใช้พื้นที่ส่วนหนึ่ง (ประมาณ 5 ไร่) จัดตั้งสถานีวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเล และศูนย์ฝึกนิสิตพร้อมทั้งดูแลโบราณสถานและโบราณวัตถุในเขตที่ดินดังกล่าวให้อยู่ในสภาพที่เป็นประโยชน์แก่สาธารณชน ปัจจุบันพื้นที่ในส่วนสถานีวิจัยอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ และพื้นที่ในส่วนพระราชฐาน (ประมาณ 219 ไร่) อยู่ในความดูแลของสำนักบริหารงานศิลปวัฒนธรรม พื้นที่ในส่วนนี้ได้มีการดำเนินการปรับปรุงร่วมกับกรมศิลปากรมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 มีการซ่อมแซมอาคารต่างๆ ที่คงเหลืออยู่จำนวน 5 หลัง ประกอบด้วยเรือนไม้ริมทะเล ตึกผ่องศรี ตึกอภิรมย์ ตึกวัฒนา และพระอุโบสถวัดอัษฎางคนิมิตร มีสระ บ่อ ธาร พุ น้ำตก จำนวน 27 แห่ง บันได จำนวน 21 แห่ง สวน ถ้ำ และทางเดิน ซึ่งล้วนแต่มีชื่อพระราชทานทั้งสิ้น
จนกระทั่งปี พ.ศ. 2545 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการปรับปรุงอาคารและภูมิทัศน์รอบพระราชฐานแห่งนี้ให้สวยงามสมบูรณ์ด้วยงบประมาณของมหาวิทยาลัย และได้จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ โบราณสถานและสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์รวมทั้งจัดสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกและส่วนบริการต่างๆ เพิ่มเติมขึ้น รวมทั้งนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชฐานและเกาะสีชังในอาคารต่างๆ ด้วย พร้อมกันนี้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานทุนทรัพย์ร่วมกับนิสิตเก่าจุฬาฯ รุ่นปี พ.ศ.2516 จัดสร้างพระบรมรูปสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระราชโอรส เพื่อประดิษฐานในอาคารผ่องศรีซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณและสิริมงคลอันสูงยิ่งแก่ชาวเกาะสีชังและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต่อมาเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2547 ยังได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราฐาน ปัจจุบันมีบุคลากรซึ่งเป็นชาวเกาะสีชังทั้งหมดทำหน้าที่ต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์กว่า 30 คน เปิดทำการทุกวันเว้นวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 17.00 น. โดยมีนักท่องเที่ยวและผู้สนใจเข้าชมประมาณ 250,000 คนต่อปี
ถิ่นสุขกายสุขใจด้วย ถิ่นดี
จิตรโปร่งปราศราคี ชุ่มชื้น
สองสุขแห่งชาวสี- ชังเกาะ นี้แฮ
อายุย่อมยืนพื้น แต่ร้อยเรือนริม
พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระเจดีย์อุโบสถวัดอัษฎางคนิมิตร
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อพุทธศักราช 2435 แทนวัดปลายแหลมที่มีมาแต่เดิม ตัวพระอุโบสถเป็นอาคารรูปกลมมีเจดีย์ทรงลังกาช้อนอยู่ข้างบน ลักษณะแปลกอีกประการหนึ่งคือมีการประดับตกแต่งตามศิลปะแบบโกธิก กล่าวคือมีประตูและหน้าต่างเป็นรูปโค้งยอดแหลม ช่องแสงประดับด้วยกระจกสีเป็นลวดลาย
เรือนไม้ริมทะเล
สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 แต่ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าสร้างในปีใด สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเรือนพักตากอากาศของชาวต่างประเทศมาก่อน ต่อมาได้มีการปรับปรุงเป็นที่ประทับแรมของพระราชวงศ์ในคราวเสด็จมารักษาพระองค์ก่อนที่จะมีการสร้างพระจุฑาธุชราชฐานในพุทธศักราช 2435 ปัจจุบันเป็นสำนักงาน ส่วนบริการนักท่องเที่ยวและจัดแสดงนิทรรศการที่สนใจในเกาะสีชัง
เรือนวัฒนา
จัดแสดงนิทรรศการเหตุการณ์สำคัญในเกาะสีชังสมัยรัชกาลที่ 5
เรือนผ่องศรี
จัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติและประวัติบุคคลผู้มีบทบาทสำคัญเกี่ยวกับเกาะสีชังในอดีต
เรือนอภิรมย์
จัดแสดงนิทรรศการสิ่งปลูกสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5
บุคลากรพิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน เกาะสีชัง
นางสาววันดี รักชาติ
หัวหน้าหน่วยพิพิธภัณพ์พระจุฑาธุชราชฐาน
038-216-416
wandeewaw@gmail.com
นายระพีพัฒน์ นิ่มลมูล
เจ้าหน้าที่บริการงานช่าง
038-216-416
นางสาวสุกัญญา ม่วงเจริญ
เจ้าหน้าที่สำนักงาน (ธุรการ)
038-216-416