๑๐๐ เรื่องจามจุรี ๑๐๐ ปีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

จากโรงเรียนมหาดเล็กสู่โรงเรียนข้าราชการพลเรือนของพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พ.ศ.๒๔๕๓

จากโรงเรียนมหาดเล็กสู่โรงเรียนข้าราชการพลเรือนของพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พ.ศ.๒๔๕๓

ครั้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ท่านทรงมีพระราชดำริว่า สมควรขยายการจัดการศึกษาเพื่อสนองความต้องการของ กระทรวง ทบวง กรมอื่นๆ ตลอดจนภาคเอกชนด้วย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาโรงเรียนมหาดเล็กเป็นสถาบันอุดมศึกษาเมื่อวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๕๓ และพระราชทานนามว่า “โรงเรียนข้าราชการพลเรือนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” เนื่องจากได้ทรงอนุสรณ์คำนึงถึงพระบรมราโชบายในสมเด็จพระบรมชนกนาถ ที่ทรงเคยมีพระราชดำริที่จะให้จัดตั้งมหาวิทยาลัยขึ้นสำหรับเป็นสถาบันอุดมศึกษาของชาวสยาม

ในครั้งนั้นโรงเรียนข้าราชการพลเรือนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการเปิดสอน ๕ โรงเรียน ได้แก่
๑. โรงเรียนรัฏฐประศาสนศาสตร์ตั้งอยู่ที่พระบรมมหาราชวัง
๒. โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ตั้งอยู่ที่บ้านสมเด็จเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี
๓. โรงเรียนราชแพทยาลัยตั้งอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช
๔. โรงเรียนเนติศึกษาตั้งอยู่ที่เชิงสะพานผ่านพิภพลีลา
๕. โรงเรียนยันตรศึกษาตั้งอยู่ที่วังวินด์เซอร์ หรือวังใหม่ หรือวังกลางทุ่ง (เคยเป็นวังของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ)

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กลับไปหน้าหลัก

คณะเศรษฐศาสตร์

เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดตั้งเป็นคณะเศรษฐศาสตร์ขึ้นเพื่อผลิตบัณฑิตทางวิชาเศรษฐศาสตร์โดยเฉพาะ

๔๓

นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยรณรงค์ต่อต้านสินค้าญี่ปุ่น

ก้าวสำคัญของการรวมตัวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของนิสิตนักศึกษา ส่งผลให้สื่อมวลชนเผยแพร่กิจกรรมของศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยอย่างแพร่หลาย รวมทั้งยังเป็นการปลูกฝังความรู้สึกชาตินิยมในหมู่นิสิตนักศึกษาด้วย

๖๑

คณะเภสัชศาสตร์

มีกำเนิดสืบเนื่องจาก “แผนกแพทย์ผสมยาโรงเรียนราชแพทยาลัย” หรือ “โรงเรียนปรุงยา”

๓๕