พิธีโสกันต์เจ้าดารารัศมี

เมื่อ 149 ปีก่อน ในวันที่ 26 สค. พ.ศ.2416 พระธิดาในพระเจ้าอินทวิชยานนท์กับแม่เจ้าทิพย์เกสร มีพระนามว่าเจ้าดารารัศมี ประสูติ ณ คุ้มหลวงกลางเวียงเชียงใหม่ เป็นธิดาผู้เกิดใต้เศวตฉัตรนครเชียงใหม่ กระทั่งเจ้าดารารัศมีมีพระชนม์มายุได้ 11 ปี ในปีพ.ศ.2427 พระเจ้าอินทวิชยานนท์จึงจัดให้มีพิธีโสกันต์ หรือพิธีโกนจุก โดยจัดพิธีขึ้นตามแบบฉบับราชสำนักสยาม ดังความตอนหนึ่งในจดหมายเหตุพระราชกิจรายวันในรัชกาลที่ 5

ความว่า “…หนังสือพระยาราชสัมภารากร ทูลเกล้าฯ ถวาย ว่าด้วยพระเจ้าเชียงใหม่ ปรึกษาด้วยเรื่องจะโกนจุกเจ้าดาราบุตรหญิง และว่าพระเจ้าเชียงใหม่จะให้เจ้าราชภาคิไนยคุมเครื่องยศเจ้าอุปราชลงมาส่งกรุงเทพฯ ได้เตือนให้จัดเงินพระคลังข้างที่ให้คุมลงมาพร้อมกัน พระเจ้าเชียงใหม่รับแล้ว…”

ในการนี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าพระราชทานพระธำมรงค์และพระกุลฑลประดับเพชรเป็นของขวัญแก่เจ้าดารารัศมี และยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานตำแหน่งพระพี่เลี้ยงกัลยารักษ์และพญาพิทักษ์เทวีในพิธีโสกันต์ครั้งนี้ด้วย ดังนี้

“…มีพระราชหัตถ์เลขาถึงพระยาราชสัมภารากรเรื่องพระเจ้าเชียงใหม่ตะโกนจุกบุตรนั้น พระราชทานตุ้มหูเพ็ชรไปทำขวัญและให้บอกว่าธรรมเนียมทางราชการไม่มี นี่เป็นการไปรเวตกับที่พูดหน่วงเหนี่ยวว่าเกรงจะทำเทียมกรุงเทพฯนั้นดีอยู่ แต่การโกนจุกไม่สำคัญอันใดซึ่งผ่อนผันไปนั้นชอบแล้ว…”

อาจสันนิษฐานได้ว่าพิธีโสกันต์เจ้าดารารัศมี จัดขึ้นเป็นกรณีพิเศษ เนื่องด้วยไม่เคยปรากฎพระราชพิธีนี้ในล้านนา แต่พิธีโกนจุกเป็นพิธีที่นิยมของชาวสยาม โดยในสมัยก่อนมักมีวัฒนธรรมการไว้ผมจุกทั้งเด็กชายและหญิง ตั้งแต่โอรส-ธิดาของกษัตริย์ ลูกขุนนางจนถึงลูกของสามัญชน เมื่อเด็กมีอายุถึงวัยที่จะโกนจุก (7 ขวบ 9 ขวบ หรือ 11 ขวบ โดยมากเจ้านายผู้หญิงจะโกนจุกเมื่อครบ 11 ชันษา เจ้านายผู้ชายเมื่ออายุครบ 13 ชันษา) เพื่อเป็นเครื่องแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านจากวัยเด็กสู่วัยผู้ใหญ่ ในภายหลังพิธีโสกันต์ได้ถูกยกเลิกไปในสมัยรัชกาลที่ 7

ข้อมูลจาก พิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์