สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร์ อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกับสมเด็จพระศรีสวรินทรา บรมราชเทวี พระพันวสาอัยยิกาเจ้า ทรงได้รับพระราชทานนามว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดชฯ

เมื่อทรงพระเยาว์ทรงสำเร็จการศึกษาด้านการสาธารณสุขและแพทยศาสตร์บัณฑิตด้วยเกียรตินิยม พระองค์จึงเสด็จกลับประเทศไทย โดยขณะนั้น ทรงดำรงค์พระอิสริยยศสูงยิ่ง จึงทำให้ไม่สามารถทรงงานด้านการแพทย์ ได้ดั่งประสงค์ในกรุงเทพ พระองค์จึงเสด็จมาทรงงานด้านการแพทย์ดังแพทย์ทั่วไปที่โรงพยาบาลแมคคอร์มิค จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ.2472 และทรงปฏิบัติงานเยี่ยงสามาเซชนเปี่ยมไปด้วยพระเมตตา และพระกรุณาอย่างดีเยี่ยมต่อผู้ป่วยทุกคน ด้วยพระวิริยะอุตสาหาะโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ เชื้อชาติ ศาสนา และด้วยพระมหากุณาธิคุณ พระเมตตาคุณนี้ พสกนิกรจึงพร้อมใจกันถวายพระสมัญญานามว่า “หมอเจ้าฟ้า” ระหว่างที่ประทับทรงงานที่โรงพยาบาลแมคคอร์มิคนั้น เจ้าเครือแก้ว ณ เชียงใหม่ ต้นห้องในพระราชชายาฯ เล่าว่า

“… ทุกครั้งที่ท่านพระราชชายาฯเสด็จไปเฝ้าสมเด็จพระพันวสาฯ ที่วังสระปทุม ก็เลยจะไปเฝ้าสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลด้วย… ครั้งที่สมเด็จเจ้าฟ้าฯ เสด็จมาทรงงานที่แมคคอร์มิค ท่านพระราชชายาฯก็ไปเฝ้าเกือบทุกวัน บางครั้งสมเด็จเจ้าฟ้าฯ ทรงตรวจคนไข้ ท่าพระราชชายาฯ ก็ทรงตามเสด็จด้วย แลทรงโปรดให้ข้าหลวงในพระราชชายาฯ ที่เป็นเชื้อสายเจ้านายเมืองเชียงใหม่เรียกขานพระนาม พระองค์ท่านว่า ทูลกระหม่อมแดง ท่านพระราชชายาฯ ทูลว่าจะเป็นการมิบังควรหรือเพคะ ขอให้ข้าหลวงเรียกขานพระนามแบบเดิมจะเหมาะสมกว่า สมเด็จเจ้าฟ้าฯ ตรัสว่า เรียกว่าทูลกระหม่อมแดงนั้นแหละเพราะดี เป็นอันตกลงว่าข้าหลวงในพระราชชายาฯ ที่เป็นเชื้อสายเจ้านายเมืองเชียงใหม่เรียกขานพระนามสมเด็จเจ้าฟ้าฯ ว่า ทูลกระหม่อมแดง ทุกครั้งที่ท่านพระราชชายาฯ ไปเข้าเฝ้าก็โปรดให้ข้าหลวงที่ตามเสด็จพระราชชายาเข้าเฝ้าด้วยทั้งหมด พระองค์ท่านไม่ทรงถือพระองค์ เป็นที่รักใคร่ของเจ้านายเมืองเชียงใหม่ตลอดจนประชาชนทั่วไปและคนไข้มี่มารักษาตัวที่แมคคอร์มิค บางครั้งเสด็จทรงเยี่ยมท่านพระราชชายาฯ ที่วังจดีย์กิ่ว ท่านพระราชชายาฯ จะทรงจัดห้องที่ประทับให้อีกห้องหนึ่ง เป็นห้องพิเศษถวาย ส่วนเรื่องเครื่องเสวย ท่านพระราชชายาฯ จะทรงคุมห้องเครื่องด้วยพระองค์เอง พระกระยาหารบางอย่างท่านพระราชชายาฯ จะปรุงถวาย…”

พระองค์เสด็จกลับกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ.2472 โดยเสด็จไปถวายพระเพลิง สมเด็จพระราชปิตุลาบรมวงศาพิมุขฯกรมพระยาพันธุ์วงศ์วรเดช และตั้งพระทัยว่า เมื่อทรงเสร็จสิ้นภารกิจแล้วจะเสด็จกลับมาทรงงานแพทย์ที่เชียงใหม่ต่อไป แต่สมเด็จพระบรมราชชนก ก็ไม่สามารถเสด็จกลับมาทรงงานแพทย์ดั่งพ

ข้อมูลจาก พิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์

#ร้อยเรื่องราวพระราชชายาเจ้าดารารัศมี