จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีพื้นที่ทรงคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมหลายแห่ง ซึ่งมีความสมบูรณ์พร้อมทั้งด้านประวัติศาสตร์ องค์ความรู้ทางสถาปัตยกรรม อาคารสถานที่ ภูมิทัศน์ อนุสรณ์สถาน และงานด้านศิลปกรรม ทั้งนี้มหาวิทยาลัยเอาใจใส่ ดูแล ทำนุบำรุงและสร้างให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญของทุกคนในสังคม ดังนี้

1) ประวัติศาสตร์ที่ยังยืนหยัดคู่การเวลาอาคารมหาจุฬาลงกรณ์

อาคารมหาจุฬาลงกรณ์เป็นตึกบัญชาการและอาคารหลังแรกของมหาวิทยาลัย ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ผู้สถาปนามหาวิทยาลัย เสด็จฯวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2458 ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมไทยที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอังกฤษ เอ็ดเวิร์ด ฮีลี (Mr. Edward Healey) ซึ่งมีความสวยงามโดดเด่น เป็นแลนด์มาร์คของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ปัจจุบัน อาคารมีอายุกว่า 100 ปี มหาวิทยาลัยได้ทำการปรับปรุงเป็นอาคารประวัติศาสตร์ทรงคุณค่า และใช้งานพิธีการสำคัญของมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ ยังเปิดให้นิสิตนักศึกษา นักท่องเที่ยว และผู้สนใจ เข้าเยี่ยมชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

  • การปรับปรุงบูรณะอาคาร ครั้งล่าสุดปี 2567-2568 มหาวิทยาลัยใช้งบประมาณจำนวน 125,536,590 บาท
  • พิธีการสำคัญ เช่น พิธีแต่งตั้งอธิการบดี (พิธีอธิการปติประทานการ), พิธีถวายสักการะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเนื่องในวันปิยมหาราช

บัณฑิตและครอบครัวถ่ายภาพกับอาคารมหาจุฬาลงกรณ์เป็นที่ระลึกเมื่อสำเร็จการศึกษา

“พระจุฑาธุชราชฐาน  เกาะสีชัง” พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างและสถาปนาขึ้นเป็นพระราชวังในปี พ.ศ. 2432 และปรับเปลี่ยนใช้เป็นส่วนราชการต่าง ๆ มาเป็นระยะเวลานาน ต่อมาในปี พ.ศ. 2521 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับมอบสิทธิการใช้ที่ดินในเขตพระราชฐานดังกล่าวและเมื่อกรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนพระจุฑาธุชราชฐาน เกาะสีชัง เป็นโบราณสถานของชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงได้ดำเนินการบูรณะพื้นที่ร่วมกับกรมศิลปากรเรื่อยมา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 และเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ และแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ในปี พ.ศ. 2547

ปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ฯ เปิดบริการมาเป็นเวลา 20 ปี โดยไม่เก็บค่าเช้าชม ด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่น สวยงาม จึงเป็นสถานที่ที่คนในชุมชนเกาะสีชังมาใช้เวลากับครอบครัว ออกกำลังกายยามเย็น พาลูกหลานมาพักผ่อนหย่อนใจ และสำหรับนักท่องเที่ยว พิพิธภัณฑ์ฯ ถือเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของเกาะสีชังที่ห้ามพลาด แต่ละปีจึงมีผู้สนใจ นักเรียนนักศึกษา คณะของทางภาครัฐและเอกชน เข้าเยี่ยมชมรวมกว่า 250,000 คน

นอกเหนือจากงานบริการการท่องเที่ยวแล้ว พิพิธภัณฑ์ฯ ยังได้จัดกิจกรรมสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิตแก่เยาวชนท้องถิ่น โดยเฉพาะด้านประวัติศาสตร์ของโบราณสถานสำคัญ เพื่อสร้างความภาคภูมิใจ ความรักถิ่นกำเนิด สนับสนุนการอนุรักษ์และสร้างจิตสำนึกในการใช้ทรัพยากรทางทะเลอย่างรู้คุณค่า รวมทั้งร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ในการส่งเสริมการอนุรักษ์และสืบสานศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ของชุมชนชาวเกาะสีชังอย่างสม่ำเสมอ อาทิ

1) งานวันสถาปนาพระจุฑาธุชราชฐาน ครบ 133 ปี มีพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวาย และการปล่อยสัตว์น้ำลงสู่ทะเล

2) งานวันปิยมหาราช มีพิธีบวงสรวงถวายราชสักการะ พิธีวางพวงมาลา โดยมีนิสิตจากโครงการจุฬาฯ-ชนบทนำถวายบังคม ร่วมด้วยส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ โรงเรียนและชุมชนหมู่บ้านต่าง ๆ เข้าร่วมประมาณ 30 หน่วยงาน และการปล่อยสัตว์น้ำลงสู่ทะเล

3) โครงการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นรุ่นที่ 17 หรือการอบรมยุวมัคคุเทศก์ โดยนำนักเรียนจากโรงเรียนในท้องถิ่นมาเข้าค่ายอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของพระราชวัง และโบราณสถานภายในบริเวณ เพื่อสร้างความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ท้องถิ่น รวมทั้งสร้างงาน สร้างรายได้เสริมแก่นักเรียนที่มาปฏิบัติหน้าที่ผู้นำชมแก่นักท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดอีกด้วย

4) โครงการพระจุฑาธุชสัญจร ครั้งที่ 15 พานักเรียนจากโรงเรียนในเกาะสีชัง ไปทัศนศึกษา ณ พระราชวังบางปะอิน พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา และพุทธอุทยานมหาราช หลวงปู่ทวด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

5) กิจกรรมวันวิสาขะบุรณมี ในวันวิสาขบูชา ณ เจดีย์อุโบสถวัดอัษฎางคนิมิตร และการจัดการประกวดโคมประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ เพื่อดำเนินตามพระราชกรณียกิจของรัชกาลที่ 5 และรักษาประวัติศาสตร์สำคัญของเกาะสีชังไว้สืบไป

6) กิจกรรม “Arts & Crafts Workshops” ทำยาดม ระบายสีปูนเปลือกหอย ถักไหมพรม และทำข้าวมันส้มตำ สำหรับนักศึกษาต่างชาติจากโครงการ Chula-AUN Summer Camp 2025 ที่มาเข้าค่ายศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมไทย

พิพิธภัณฑ์ฯ ให้ความร่วมมือกับการเข้าร่วมกิจกรรมของท้องถิ่น และสนับสนุนพื้นที่เพื่อจัดกิจกรรมต่าง ๆ อยู่เสมอ อาทิ กิจกรรมสืบสานประเพณีลอยกระทง ณ เกาะสีชัง, กิจกรรมโครงการ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10, กิจกรรมของโครงการสัตว์ทะเลคืนถิ่น ปล่อยพ่อแม่พันธุ์ปูม้า และปลาฉลามกบ คืนสู่ทะเล, กิจกรรมจดทะเบียนสมรสให้กับคู่รัก ณ สะพานอัษฎางค์ (สะพานแห่งความรัก) ต้อนรับวันวาเลนไทน์, กิจกรรมบวงสรวงเทพารักษ์ประจำเกาะสีชัง ”ศรีชโลธรเทพ“ และผูกผ้าสามสีต้นมะขาม “หัตถวิจารณ์” เป็นต้น

พิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน เกาะสีชัง

การเข้าชม
เปิดทำการวันอังคาร ถึง วันอาทิตย์ ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ (ปิดเฉพาะวันจันทร์)
เวลา 9.00-17.00 น.
โทร. 038-216-416
ไม่เก็บค่าเข้าชมสถานที่
https://www.facebook.com/phrachudadhuj

3) อาคารจักรพงษ์: นิทรรศการประวัติศาสตร์ของการอุดมศึกษาไทย

ตึกจักรพงษ์นับเป็นอาคารทรงคุณค่าหลังหนึ่งของมหาวิทยาลัย สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2475 มีลักษณะเป็นอาคารทรงไทย 2 ชั้น แต่แรกเริ่มใช้เป็นที่ตั้งของสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ ปัจจุบันอยู่ในความรับผิดชอบดูแลของ หอประวัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ สำนักบริหารศิลปวัฒนธรรม  มีพื้นที่ 2 ชั้น โดยชั้นที่ 1 จัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียน และพื้นที่ชั้น 2 จัดแสดงนิทรรศการถาวร โดยนิทรรศการทั้งหมด จะบอกเล่าเรื่องราวของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ประเพณี เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นทั้งในมหาวิทยาลัยและสังคมที่เกี่ยวข้องกัน

ในปี 2567-2568 ได้มีการจัดนิทรรศการหมุนเวียนชั้น 1 ในหัวข้อ “ปกเกล้าฯชาวจุฬาฯ” เป็นการจัดแสดงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ที่ทรงมีต่อมหาวิทยาลัยด้วยเป็นช่วงเวลาแห่งการจบการศึกษาของบัณฑิตจุฬาฯ ครั้งแรกใน ปี 2473 ทางด้านเวชบัณฑิต นิทรรศการจัดแสดงการเสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทานปริญญาบัตรครั้งนั้น เอกสารสำคัญ รูปถ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนับเป็นข้อมูลสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีบัญฑิตจบการศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรก  ส่วนห้องนิทรรศการถาวร ชั้น 2 จัดแสดงนิทรรศการ “สายพระเนตรอันยาวไกล สู่มหาวิทยาลัยแห่งกรุงสยาม” ห้องแรกกล่าวถึงตั้งแต่ครั้งเริ่มต้นตั้งโรงเรียนมหาดเล็กหลวง และโรงเรียนฝึกหัดข้าราชการพลเรือนฯ (ก่อนเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) และห้องที่สองจัดแสดงนิทรรศการตั้งแต่สถาปนาเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ทั้งสองนิทรรศการนั้น ได้เพิ่มรูปแบบวิธีการสื่อสารให้แก่ผู้ชมมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะมีการบรรยายด้วยตัวอักษร ภาพถ่ายและวัตถุจัดแสดงแล้ว ยังมีการจัดทำสื่อวีดิทัศน์สำหรับผู้ที่ต้องการรับชมด้วยภาพและเสียง มีการจัดทำเนื้อหาฉบับเต็มในลักษณะ E-Book โดยผู้ชมสามารถใช้เครื่องมือสื่อสารของตนเองถ่าย QR Code สำหรับรับชมและเข้าถึงเนื้อหาได้ภายหลัง

ห้องที่สาม บนชั้น 2 เป็นนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ซึ่งสำนักบริหารศิลปวัฒนธรรมร่วมกับนิสิตเก่าจุฬาฯ รุ่น 2513 ในโอกาสครบการเป็นน้องใหม่จุฬาฯ ครบ 50 ปี จัดงบประมาณสนับสนุนร่วมกับงบประมาณของสำนักฯ โดยมีเอกสาร สิ่งจัดแสดงและข้อมูลใหม่ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

นิทรรศการ ณ ตึกจักรพงษ์ นับเป็นองค์ความรู้สำคัญ ที่ถ่ายทอดถึงแนวพระราชดำริ พระบรมราโชบาย ประวัติศาสตร์การพัฒนาการศึกษาชาติ โดยรวบรวมข้อมูลมาจากแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้ มีการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญและทรงคุณวุฒิหลายท่าน ทำให้อาคันตุกะผู้มาเยือนมหาวิทยาลัย ประชาคมจุฬาฯ และผู้สนใจ ที่มาชมนิทรรศการ ได้ซึมซับ ตระหนักรู้ ภาคภูมิใจในมหาวิทยาลัย ประเทศชาติ รวมทั้งทราบถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระผู้ประดิษฐานและสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทั้งสองพระองค์ และความตั้งใจของปูชนียบุคลอีกหลายท่านที่มีส่วนสำคัญในก้าวสำคัญของประวัติศาสตร์ไทยในครั้งนั้น

เปิดบริการวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.30-16.00 น.
แผนที่: https://goo.gl/maps/4BBjwYdvRDivQBW28
ไม่เสียค่าเข้าชม

ติดต่อสอบถาม
โทร. 02-218-7098
Facebook: หอประวัติจุฬาฯ