135 ปีแห่งวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร
อธิบดีกรมมหาวิทยาลัยพระองค์แรก
12 พฤศจิกายน 2428 – 2563

พระบรมวงศ์พระองค์สำคัญ ผู้เริ่มต้นก่อร่าง เสริมสร้าง สนับสนุนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาตั้งแต่แรกตั้ง คือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ผู้ทรงเป็นอธิบดีกรมมหาวิทยาลัยพระองค์แรก

สมเด็จฯ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ประสูติเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2428 เมื่อเจ้าจอมมารดา หม่อมราชวงศ์เนื่องในรัชกาลที่ 5 ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2428 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงอุ้มพระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ มาพระราชทานสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี เพื่อทรงรับอุปการะ รวมถึงพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเยาวภาพงศ์สนิท พระเชษฐภคินี

เมื่อเจริญพระวัย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ไปศึกษาต่อชั้นมัธยม ณ เมืองฮัสเบอรสตัด ประเทศเยอรมนี เมื่อพุทธศักราช 2442 จากนั้นทรงเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยไฮเดลแบร์ก โดยมีพระประสงค์ที่จะศึกษาวิชาแพทย์ แต่ในระยะแรกทรงศึกษาวิชากฎหมาย ตามพระบรมราชประสงค์ของรัชกาลที่ 5 ต่อมาจึงทรงเปลี่ยนเป็นวิชาการศึกษา และวิชาที่เกี่ยวกับการแพทย์บางอย่างเป็นการส่วนพระองค์

ทรงรับราชการตำแหน่งผู้ช่วยปลัดทูลฉลองกระทรวงศึกษาธิการ และทรงเป็นผู้บัญชาการโรงเรียนราชแพทยาลัยเมื่อพุทธศักราช 2458 ทรงปรับปรุงและวางหลักสูตรให้เจริญก้าวหน้าอย่างมาก เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพุทธศักราช 2459 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นชัยนาทนเรนทร ทรงเป็นอธิบดีกรมมหาวิทยาลัยเป็นพระองค์แรก หนึ่งในพระกรณียกิจสำคัญขณะทรงดำรงตำแหน่งนี้ คือทรงเริ่มต้นความร่วมมือทางวิชาการกับมูลนิธิรอกกีเฟลเลอร์ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต่อมาในพุทธศักราช 2473 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงตั้งคณะกรรมการดำริรูปการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมขุนชัยนาทนเรนทร ทรงเป็นประธานกรรมการ

“…ส่วนพระดำริของพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมขุนชัยนาทนเรนทรนั้น ทรงตรึกตรองดำริรูปการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไว้กว้างขวางยิ่งนัก ได้ทรงคิดโครงร่างเกี่ยวกับการบริหารของมหาวิทยาลัย เพื่อแก้ข้อขัดข้องที่มีอยู่ในเวลานั้น ได้ทรงคิดให้มี “สภาศาสตราจารย์ (Senate)” ขึ้น มีหน้าที่ที่ต้องทราบกิจการเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยทุกอย่าง ทั้งทางธุรการ และวิชาการ

ทรงคิดให้มีสภามหาวิทยาลัยประกอบด้วยผู้แทนอาจารย์ และผู้แทนกระทรวงทบวงกรมอื่น ๆ เป็นสมาชิก เป็นสภาที่มีสิทธิ์ที่จะสอบถามและแสดงความเห็นติชมแนะนำได้ทุกประการ

ทรงเห็นว่า เพื่อความยั่งยืนของมหาวิทยาลัย สมควรขอรับพระราชทานที่ดิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยอันยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของพระคลังข้างที่ เป็นสิทธิ์ขาดแก่มหาวิทยาลัยเสีย

นอกจากนั้นยังได้ทรงพระดำริเกี่ยวกับการที่จะจัดการศึกษาทั้งในคณะที่มีอยู่แล้วในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในบัดนั้น กับทั้งวิชาที่ควรจะสอนเพิ่มขึ้นในมหาวิทยาลัย เช่น “ธรรมศาสตร์ (Jurisprudence, Laws) วิชาเรื่องป่าไม้ (Forestry) วิชาเรื่องเหมืองแร่ (Mining) ศิลาศาสตร์ (Mineralalogy) โบราณคดี (Archaeology) ศิลปกรรมประณีต (Fine Arts) ดนตรี (Music)” เป็นต้น…”

ความตอนหนึ่งจาก “70 ปีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย : กำเนิดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย”

ข้อมูลจาก หอประวัติจุฬาฯ
#หอประวัติจุฬาฯ #ChulaMemorialHall