“ด้วยเมื่อประมาณต้นเดือนกรกฎาคม 2509 Mr.AOKI และ Mr.HOSODA ได้แจ้งแก่มหาวิทยาลัยทราบว่า บริษัทเจแปนแอร์ลายน์ มีความประสงค์จะสร้างถาวรวัตถุให้แก่จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย และอยากจะให้ทุนการศึกษาแก่นิสิตด้วย ฉะนั้น ทางมหาวิทยาลัยจึงได้เชิญ Mr.AOKI และ Mr.HOSODA และเจ้าหน้าที่ของบริษัท J.A.L. บางท่าน มาร่วมปรึกษาหารือกัน และก็ตกลงว่าจะสร้างหอนาฬิกา จึงได้เลือกสถานที่ที่จะสร้าง ทางมหาวิทยาลัยเห็นว่าควรสร้างตรงบริเวณที่ตั้งเสาธงหน้าตึกจักรพงษ์นี้ จึงได้เชิญ Mr.HOSODA และ Mr.HIRAI มาดูสถานที่และออกแบบก่อสร้างต่อไป จนกระทั่งได้สำเร็จลุล่วงมาดังที่ท่านได้เห็นอยู่นี้”
ข้อความข้างต้นนี้ ศาสตราจารย์ศุภชัย วานิชวัฒนา รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ในขณะนั้น ได้กล่าวกับบรรดาผู้ที่มาร่วมในพิธีการรับมอบ “หอนาฬิกา” เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2510 ซึ่งสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ ได้จัดสร้างขึ้นเพื่อมอบเป็นที่ระลึกในโอกาส 50 ปีแห่งการสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อีกทั้งเป็นวาระ 10 ปีที่สายการบินเจแปนแอร์ไลน์ ได้ให้บริการการบินในประเทศไทย และเปิดเส้นทางบินทั่วโลกในเดือนมีนาคมปีเดียวกันนั้น โดยมีศาสตราจารย์ ดร.แถบ นีละนิธิ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ ในขณะนั้น เป็นผู้แทนอธิการบดี (จอมพลประภาส จารุเสถียร) ในการรับมอบ
หอนาฬิกาแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ด้านหน้าตึกจักรพงษ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสโมสรนิสิตในเวลานั้น (ปัจจุบันคือหอประวัติจุฬาฯ) ในบริเวณซึ่งเคยมีเสาธงของมหาวิทยาลัยเสาแรกตั้งอยู่ หอนาฬิกาแห่งนี้ กลายเป็นสัญลักษณ์ที่เด่นชัดของกลุ่มอาคารทางฝั่งซ้ายมือของหอประชุมจุฬาฯ ตัวเรือนเป็นนาฬิกา SEIKO ซึ่งยังคงใช้งานอยู่จนกระทั่งทุกวันนี้ ด้านล่างมีจารึกภาษาอังกฤษ ที่ศาสตราจารย์ รอง ศยามานนท์ รองอธิการบดีฝ่ายปกครอง เป็นผู้ร่างข้อความระบุประวัติของหอนาฬิกาแห่งนี้ไว้ความว่า
“This Clock Tower is a gift of The Japan Air Lines to Chulalongkorn University in commemoration of the 50th Anniversary of the University , the 10th Anniversary of its J.A.L service to Thailand and the inauguration of the airlines’ round the world service in March 1967”
ศึกษาเอกสารเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายจดหมายเหตุ หอประวัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้น 15 อาคารบรมราชกุมารี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
#เก็บตกจากโต๊ะจดหมายเหตุจุฬาฯ
ข้อมูลจาก หอประวัติจุฬาฯ
#หอประวัติจุฬาฯ #ChulaMemorialHall
